
ธุรกิจของ APM
บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัดให้บริการเป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงินกับองค์กรธุรกิจต่าง ๆ อย่างเต็มรูปแบบ โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) อีกทั้งยังได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (คปน.) ธนาคารแห่งประเทศไทย ในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วย
ทีมงานที่ให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า ประกอบด้วยบุคลากรระดับผู้บริหารผสมผสานกับบุคลากรผู้ปฏิบัติการ ที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ที่หลากหลายในแวดวงการเงิน การบัญชี การธนาคาร สินเชื่อโครงการ วาณิชธนกิจ และกฎหมาย
บริษัทฯ มีนโยบายที่มุ่งมั่นในคุณภาพของการเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินด้วยความทุ่มเท โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้า และยึดมั่นในจรรยาบรรณในการทำงานเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเก็บรักษาความลับของลูกค้า
APM สยายปีก ตั้ง APM International
หวังต่อยอดธุรกิจ FA ทั่วอาเซียน

“APM” เตรียมตั้ง APM International ที่สิงคโปร์ รุกธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน ขยายฐานลูกค้าอาเซียนเพิ่ม หลังแนวโน้มอุตสาหกรรมดี ความต้องการระดมทุนผ่านตลาดหุ้นยังมีอีกมาก ด้านธุรกิจที่ลาวโตต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมตั้งบริษัทลิสซิ่ง และศึกษาโอกาสของธุรกิจประกันภัย ครอบคลุมธุรกิจด้านการเงินการลงทุนให้ครบวงจร พร้อมปรับองค์กรเพื่อรองรับการเติบโตอนาคต
“APM International จะทำให้เราก้าวสู่ความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น ซึ่งเรามองเห็นโอกาสมากมายในธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินที่ยังมีแนวโน้มที่ดี แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่เชื่อว่าปีนี้จะกลับมาดีและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งความต้องการคำแนะนำและการวางแผนโครงสร้างทางธุรกิจและการเงินเพื่อปรับตัวและรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตยังมีอีกมาก APM จึงไม่หยุดอยู่กับที่ และพร้อมที่จะหาช่องทางใหม่ เพื่อให้ธุรกิจมีการเติบโตอยู่ตลอดเวลา โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 2559” นายสมภพ กล่าว
ทั้งนี้ จากการขยายธุรกิจตามแผนงานปีนี้ APM จึงได้แต่งตั้งผู้บริหาร 2 ท่าน ได้แก่ นายเสกสรรค์ ธโนปจัย และ นายสมศักดิ์
ศิริชัยนฤมิตร ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ซึ่งจะดูแลและรับผิดชอบงานทางด้านที่ปรึกษาทางการเงินที่เกี่ยวกับการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) รวมไปถึงด้านการออกตราสารทุนและตราสารหนี้ ด้านการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ด้านการปรับโครงสร้างหนี้ และงานที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) กรณีการได้มาและจำหน่ายไปตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ขณะที่คณะกรรมการบริษัทมีมติแต่งตั้งนายสมภพขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ (Chairman) เพื่อดูแลนโยบายและภาพรวมขององค์กรอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการรุกธุรกิจไปยังประเทศสิงคโปร์ และโอกาสในการจัดตั้งบริษัทภายใต้ APM ในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV โดยในปีนี้ บริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจในสปป.ลาว ด้วยการเปิดธุรกิจลีสซิ่งเพื่อต่อยอดธุรกิจในสายตลาดเงินและตลาดทุน ในนาม บริษัท เอพีเอ็ม ลีสซิ่ง จำกัด ซึ่งน่าจะได้รับใบอนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจได้ ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยจะให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ทั้งเก่าและใหม่ รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
“โมเดลธุรกิจในลาวจะเป็นต้นแบบของการดำเนินธุรกิจของ APM ไปยังกลุ่มประเทศ CLMV โดยเห็นว่าประเทศกัมพูชาและเวียดนามมีความน่าสนใจที่จะเข้าไปขยายธุรกิจได้ ขณะประเทศที่เมียร์ม่ายังมีความจำเป็นต้องศึกษากฎเกณฑ์หลายอย่าง โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2559” นายสมภพ กล่าว
ปัจจุบันบริษัทมีการให้บริการทางด้านการเงินแบบครบวงจร อาทิ ที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับประสานงานจัดหาแหล่งเงินกู้ (Loan Arranger) ที่ปรึกษาทางการในการประสานงานจัดหาผู้ร่วมทุน (Joint Venture) ที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับการควบรวมกิจการ ( Merger and Acquisition ) ที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับการปรับโครงสร้างหนี้ (Debt Restructuring) ที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (FA for Listing/IPO) และที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ (Rehabco) เป็นต้น
Dinner Talk 2559



บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท เจตาแบค จำกัด (มหาชน) หรือ “GTB” ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ ได้นำเสนอข้อมูลสู่นักลงทุน 10 จังหวัด ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2559
จำนวนหุ้นที่เสนอขาย: 240,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้
ทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว
ก่อนเสนอขาย IPO : 180 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 720 ล้านหุ้น
หลังเสนอขาย IPO : 240 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 960 ล้านหุ้น
มูลค่าที่ตราไว้ (Par Value): 0.25 บาทต่อหุ้น
ตลาดรองที่จดทะเบียน: ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
นโยบายการจ่ายเงินปันผล: ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังภาษีเงินได้และสำรองต่างๆ
วัตถุประสงค์ในการใช้เงิน
1. ลงทุนขยายพื้นที่การผลิตและเพิ่มกาลังการผลิตโรงงานระยอง
2. ลงทุนขยายกำลังการผลิตโรงงานบางพลี
3. ลงทุนจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรม
4. ลงทุนการวิจัยและพัฒนาระบบเผาไหม้
5. ลงทุนเปิดสำนักงานขายและบริการในต่างประเทศ
6. ลงทุนพัฒนาโปรแกรมคำนวณและออกแบบทางวิศวกรรมและจัดตั้งหน่วยงานวิศวกรรมออกแบบ
7. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
แกนนำการจัดจำหน่ายหุ้น: บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)