ข่าว / กิจกรรม
CRD เทรดวันแรกเหนือจองกว่า 10%
October 6, 2017
บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD เปิดการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ปิดตลาดวันนี้ ราคาอยู่ที่ 1.59 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 10.42% สูงสุด 1.84 บาท ต่ำสุด 1.57 บาท ราคาเปิดอยู่ที่ 1.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 821.43 ล้านบาท
CRD เป็นผู้ให้บริการรับเหมาก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างทั่วไป และรับเหมาก่อสร้างงานระบบสาธารณูปโภคตามแบบที่ลูกค้ากำหนด โดย CRD ให้บริการในส่วนงานวิศวกรรมโยธาและดูแลโครงการในฐานะผู้รับเหมาหลัก (main contractor) และว่าจ้างผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ในแต่ละด้านเข้ามาทำงาน ภายใต้การควบคุมคุณภาพโดยทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญของบริษัท ทั้งนี้ มีลูกค้ามีทั้งหน่วยงานราชการและเอกชน
CRD มีทุนชำระแล้ว 250 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 350 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 150 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 27-29 กันยายน 2560 ในราคาหุ้นละ 1.44 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 216 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 720 ล้านบาท มีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บมจ. บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD เปิดเผยว่าบริษัทเป็นผู้ให้บริการรับเหมาก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างทั่วไป และรับเหมาก่อสร้างงานระบบสาธารณูปโภค ตามแบบที่ลูกค้ากำหนดในฐานะ main contractor มีวิศวกร และทีมงานที่มีความรู้ และประสบการณ์ ควบคุมคุณภาพงานอย่างใกล้ชิด สร้างความเชื่อมั่น ซึ่งบริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 27 ปี ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้ลงทุนซื้อเครื่องจักรอุปกรณ์และยานพาหนะที่ใช้ในงานก่อสร้าง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเข้ารับงาน ลงทุนสร้างทีมวิศวกร ขยายส่วนงานออกแบบเพื่อให้บริการที่ครบวงจร และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการขยายธุรกิจในอนาคต
CRD มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มจิรพิพัฒน์ ถือหุ้น 39.76% นายกนก ศรีกนก ถือหุ้น 14.98% และนายเฉลิมศักดิ์ นิมาพันธ์ ถือหุ้น 10.50% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 1.44 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 24.00 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสล่าสุด (1 กรกฎาคม 2559-30 มิถุนายน 2560) ซึ่งเท่ากับ 31.63 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.06 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในแต่ละปี ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิที่เหลือหลังจากหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด