top of page

 

ข่าว / กิจกรรม

BM เคาะราคา IPO 2.88 บาท พร้อมลงสนาม เปิดจองซื้อหุ้น 9-11 พ.ค. นี้


May 3, 2016  

        บมจ.บางกอกชีทฯ (BM) เซ็นสัญญาแต่งตั้ง บล. โนมูระ พัฒนสินและบริษัทหลักทรัพย์อีก 6 แห่ง ร่วมเป็นผู้จัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นไอพีโอ เคาะราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) หุ้นละ 2.88 บาท เตรียมเปิดจองซื้อวันที่ 9-11 พ.ค. 59 ก่อนจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 17 พ.ค. นี้

 

          นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้นำการผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก ได้แก่ รางเดินสายไฟฟ้า ตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้า ตู้โลหะ และแผงควบคุมไฟฟ้าที่ใช้ตามอาคาร คอนโดมิเนียม สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม  สถานีไฟฟ้า เป็นต้น ภายใต้ตราสินค้า “BSM”, “BM”, “BS” และ “BEST” และผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปอื่นๆ จากโลหะตามความต้องการของลูกค้า และเป็นผู้จำหน่ายท่อร้อยสายไฟฟ้า เปิดเผยว่า” บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์อีก 6 แห่ง ประกอบไปด้วยบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์  โกลเบล็ก จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้น (อันเดอร์ไรท์เตอร์)  เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ0.50 บาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ “BM”

 

          ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการก่อสร้างอาคารโรงงานแห่งที่สองเพื่อขยายกำลังการผลิตเหล็กแปรรูป และขยายไลน์การผลิตเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ และสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องในอนาคต

 

          “การระดมทุนจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจของ BM มีศักยภาพในการขยายตัวที่สูงขึ้น และเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเงินที่ได้บริษัทฯจะนำมาใช้ในการขยายกำลังการผลิตเหล็กแปรรูป และขยายไลน์การผลิตเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ตามการเติบโตธุรกิจ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าหากดำเนินงานได้ตามแผนจะทำให้บริษัทฯเติบโตอย่างชัดเจน” นายธานินกล่าว

          นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจท์เม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.บางกอกชีทเม็ททัล หรือ BM กล่าวว่า BM เป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีความเชี่ยวชาญ และมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน รวมถึงผลการดำเนินงานมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ BM ยังมีความสามารถในการทำกำไรที่ดี โดยผลการดำเนินการในปี 2555  BM มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 13.22% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ 2.52% และปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2558 BM มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 22.22% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ 8.40% โดยที่ผลการดำเนินการของ BM ในปี 2558 มีรายได้รวม 806.13 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 67.70 ล้านบาท

 

          และที่สำคัญธุรกิจของ BM ยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้ในอนาคต จากปัจจัยด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางของรัฐและโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการการใช้เหล็กแปรรูปให้เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงตลาดของเครื่องจักรกลการเกษตรที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม AEC เช่น เวียดนาม ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ เป็นต้น ซึ่ง BM ก็เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนให้กับผู้ผลิต และจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตรอันดับต้นๆ ของโลก

 

          “BM ถือเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจ เพราะมีผลการดำเนินงานที่มีการเติบโต และมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญที่สุดคือโอกาสในการเติบโตในอนาคตที่เปิดกว้างจากการลงทุนโครงการเมกะโปรเจคของรัฐเอง หรือภาคการเกษตรที่เติบโตขึ้น ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ความต้องการเหล็กแปรรูปเพิ่มสูงขึ้น” นายสมศักดิ์กล่าว

 

          นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้น BM กล่าวว่า ราคาหุ้นไอพีโอของ BM อยู่ที่ 2.88 บาท โดยใช้วิธีอัตราส่วนกำไรต่อหุ้นในการกำหนดราคา โดยราคาดังกล่าวถือว่ามีส่วนลดให้กับนักลงทุน  โดยหุ้นไอพีโอของ BM จะเสนอขายทั้งหมด 100 ล้านหุ้น โดยจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคม 2559 และเตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม

bottom of page